DHC Lip Cream 1.5g ลิปครีมที่จะช่วยให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม

DHC Lip Cream ลิปครีมที่จะช่วยให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม และยังช่วยรักษาความชุ่มชื้น

ป้องกันปัญหาริมฝีปากแห้งและแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ได้รับรางวัลมากมายในบรรดาลิปครีม ขายดีที่สุดอันดับ 1 ติดทั้ง Yahoo Beauty และ Cosme อีกด้วย

มีส่วนผสมของ  Olive Virgin Oil, Ginseng, Aloe Vera และ Essence เข้มข้น สำหรับบำรุงผิวที่บอบบางริมฝีปาก 

ต้องการการทะนุถนอมเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ

ดูแลให้ริมฝีปากอ่อนนุ่ม ชุ่มชื่น ไม่แห้ง แตก เป็นขุย และช่วยให้ริมฝีปากเป็นสีชมพูสวยใส เป็นธรรมชาติ

รีวิว DHC Lip Cream

*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคคล

DHC Lip Cream ปริมาณ 1.5 g

เราให้คำมั่นว่า เราจะเป็นมิตรต่อสตรีทั่วโลก

เราจะเผยแพร่ ประวัติบริษัทเครื่องสำอางระดับโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงทั้งหลาย  หลายสิบปีก่อนหน้านั้น ได้มีการใช้เครื่องสำอางที่ผสมสารเคมีกันอย่างแพร่หลาย โดยมีข้อกังขาในส่วนผสมที่อาจไปซ้ำเติมผิว เมื่อปี ค.ศ.1975 บริษัท DHC  ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเครื่องสำอางปลอดสารเคมี จึงเริ่มต้นทำการวิจัยและค้นคว้า เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ ที่มีสารประกอบจากธรรมชาติ และศึกษาวิธีช่วยให้สารประกอบเหล่านี้ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด

วันนี้บริษัท DHC เป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีมาก จากผู้ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาหาร เพื่อสุขภาพชั้นยอด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ DHC ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจาก Olive Oil 100% ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ในการบำรุงโดยไม่ระคายเคืองต่อผิว จึงเป็นสินค้าคุณภาพที่ได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานใหม่ ในอุตสาหกรรมบำรุงผิวของประเทศญี่ปุ่น

ลักษณะเฉพาะในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท DHC คือการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับโดยตรง และมีระบบขนส่งสินค้า ที่สามารถรักษาสภาพหีบห่อ ของสินค้าให้ดีที่สุดจนถึงมือลูกค้า ระบบการขนส่งสินค้าดังกล่าว ได้ถูกถ่ายทอดวิทยาการ และความชำนาญแก่สาขาต่างประเทศ อาทิ อเมริกา ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ทำให้ธุรกิจของ DHC ประสบความสำเร็จ อย่างงดงามในประเทศเหล่านี้

ปรัชญาของ DHC

"ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงทัดเทียมกับตลาด แต่ขายในราคาที่ถูกกว่า หรือผลิตภัณฑ์ DHC จะต้องมีคุณภาพที่เหนือกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าที่มีราคาเท่ากัน และถ้าทำไม่ได้ตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น บริษัทก็จะไม่ผลิตสินค้านั้น"